ดร.ธนพล เพ็ญรัตน์ นักวิชาการ ม.นเรศวร เสนอมาตรการก่อนเปิดเหมืองแห่งใหม่ในไทย

ปี 2550  โรงพยาบาลรามาธิบดี  ตรวจผลเลือดประชาชนที่อาศัยรอบเหมืองแร่ทองคำของ บริษัททุ่งคำ จ.เลย  พบสารไซยาไนต์ในเลือดเกินมาตรฐาน  ล่าสุดสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ตรวจพบพบแมงกานีสในเลือดของประชาชนรอบเหมืองทอง คำบริษัทอัครารีซอร์สเซส จำกัด ในพื้นที่  อ.ทับคล้อ จ.พิจิตร


จึงไม่ใช่ครั้งแรกที่แต่ละหน่วยงานออกมาเสนอผลพิสูจน์ที่เกิดขึ้นกับชาว บ้านและสิ่งแวดล้อมรอบเหมือง  แต่ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์กลับไม่เพียงพอที่จะระบุได้ว่าสาเหตุที่แท้จริงมา จากการประกอบกิจการของเหมืองทองคำ  หรือเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ  กลายเป็นอุปสรรคสำคัญในการหาผู้รับผิดชอบ  และแนวทางการฟื้นฟูที่ถูกต้อง




ดร.ธนพล  เพ็ญรัตน์  อาจารย์ภาควิชาวิศวกรรมโยธา  สาขาวิศวกรรมสิ่งแวดล้อม  มหาวิทยาลัยนเรศวร  ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านในการประชุมรับฟังการชี้แจงของหน่วยงาน และผู้เชี่ยวชาญเรื่องเหมืองทองคำ ที่จัดขึ้นโดยคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ  เมื่อวันที่  3  กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา จึงเสนอแนะมาตรการที่ไทยควรนำมาปรับใช้เพื่อลดความเสี่ยงจากกิจกรรมเหมือง แร่ทองคำ  ที่เน้นการตั้งรับโดยต้องมีการประเมินความเสี่ยงพื้นฐานของแต่ละพื้นที่ ตั้งแต่ยังไม่เปิดเหมือง


“ขอเสนอว่าถ้ามีพื้นที่ใหม่ ๆ ควรประเมินความเสี่ยงพื้นฐานก่อน  และใช้ความเสี่ยงพื้นฐานร่วมในการตัดสินใจว่าจะเปิดหรือไม่ให้เปิด  หรือเปิดในมาตรการอะไร  กพร.ก็น่าจะหามาตรการร่วมกันกับสาธารณสุขหรือเปล่า  และการประเมินความเสี่ยงก็ต้องเป็นการประเมินความเสี่ยงเชิงปริมาณ  คือไม่ใช่บอกแค่ว่าเสี่ยงไม่เสี่ยง  แต่ต้องบอกด้วยว่าเสี่ยงในระดับไหน ซึ่งมีศัพท์ในการประเมินอยู่แล้ว ซึ่งจะอ้างอิงได้“  ดร.ธนพล  เพ็ญรัตน์  อาจารย์ภาควิชาวิศวกรรมโยธา  สาขาวิศวกรรมสิ่งแวดล้อม  มหาวิทยาลัยนเรศวร  กล่าว


ทั้งนี้ได้เสนอการตั้งกฎหมายฟื้นฟูพื้นที่ปนเปื้อน  เพื่อความชัดเจนว่ามีเหตุการณ์ใดบ้างที่สมควรได้รับการฟื้นฟู  และแนวทางของแต่ละเหตุการณ์ต้องดำเนินการแก้ไขอย่างไร


“ในของประเทศสหรัฐอเมริกาเขาใช้ข้อมูลสิ่งแวดล้อมอย่างเดียว  คือเขาคิดว่าไม่จำเป็นต้องมีสารอันตรายในเลือดคนก่อนแล้วค่อยทำอะไร  ไม่จำเป็นต้องเป็นอย่างนั้น  ไม่จำเป็นต้องป่วยต้องตาย  คือแค่มีความเสี่ยงก็ดำเนินการเลย  แล้วความเสี่ยงนี้ก็ไม่ใช่ความเสี่ยงในปัจจุบันเท่านั้น  แต่เป็นความเสี่ยงที่อีก 30 ปีมันจะเกิด…ก็ทำเลย”


  “ก็แปลว่าต้องดำเนินการไม่ว่าจะโดยหาผู้รับผิดได้หรือไม่ก็แล้วแต่  เขาจะมีกองทุนฟื้นฟู  ถ้ายังตอบไม่ได้ว่าตกลงเป็นเพราะธรรมชาติหรือเพราะเหมืองก็ต้องดำเนินการไป ก่อน แล้วกระบวนหาผู้รับผิดก็จะดำเนินการคู่ขนานไป”  ดร.ธนพล  เพ็ญรัตน์  อาจารย์ภาควิชาวิศวกรรมโยธา  สาขาวิศวกรรมสิ่งแวดล้อม  มหาวิทยาลัยนเรศวร  กล่าว


เสียงจากผู้เชี่ยวชาญในที่ประชุมยังเห็นว่า  การเกิดขึ้นของเหมืองย่อมมีความเสี่ยงไม่มากก็น้อย  จึงไม่สมควรที่เหมืองและชุมชนอยู่ในพื้นที่เดียวกัน  ดังนั้นการเปิดสัปทานในพื้นที่ จ.เลย รอบใหม่ที่คาดการณ์ว่าจะเกิดขึ้น  ต้องคิดอย่างถี่ถ้วนว่าจังหวัดจะดำเนินไปในทิศทางไหน  ระหว่างเศรษฐกิจจากเหมืองแร่ทองคำ,  การท่องเที่ยว  หรือมีเพื่อที่อยู่ที่ทำกินของประชาชน


วรัญญา  จันทราทิพย์  ถ่ายภาพ 


ขวัญชนก  เดชเสน่ห์  สำนักข่าวสิ่งแวดล้อม GreennewsTV รายงาน



ผู้เขียนข่าว : นิรันดร กาบบัว
วันที่เขียน : 13 ก.พ. 2558, 10:25

หากไม่สามารถเปิดอ่านไฟล์ได้
กรุณาติดตั้งโปรแกรม
.PDF .SWF